ปกติแล้วยอดที่ถือเป็นรายได้ของกิจการ คือยอดก่อน VAT. ดังนั้นการคิดค่านายหน้าก็ควรจะคิดจากยอดรายได้ของกิจการ คือยอดก่อน VAT.ซึ่งถูกต้องแล้วค่ะ
ปกติแล้วยอดที่ถือเป็นรายได้ของกิจการ คือยอดก่อน VAT. ดังนั้นการคิดค่านายหน้าก็ควรจะคิดจากยอดรายได้ของกิจการ คือยอดก่อน VAT.ซึ่งถูกต้องแล้วค่ะ
หากออก Invoice เป็นค่าขนส่ง จะไม่มี VAT ค่ะ และผู้จ่ายจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 1%
นะคะ
เขียนเหตุผล ที่ไม่มีชื่อ-ที่อยู่ของลูกค้าลงไปเลยค่ะ แต่ต้องนำยอดส่ง VAT
ให้ถูกต้องและครบถ้วนนะคะ ไม่น่าจะมีปํญหาค่ะ
ให้เข้าไป RD-Net เพื่อทำการยกเลิกแบบเดิมแล้วยื่นแบบใหม่ หรือยื่นแบบเพิ่มเติมได้
(แล้วแต่กรณี) ซึ่ง VAT. ก.ค.64 ที่ยื่นแบบใน ส.ค.64 สรรพากรขยายเวลาให้ยื่นได้ถึง
31/8/64 ดังนั้นช่วงนี้จะยังไม่มีเบี้ยปรับและเงินเพิ่มค่ะ
จากคำถาม ก็จะกรอกเฉพาะใน ข้อ 1 และ ข้อ 2 ค่ะ
1. ลาซาด้าไม่ได้หัก VAT.7% ของราคาสินค้าเรานะคะ แต่สินค้าที่เราขายผ่านลาซาด้านั้นเป็นราคาที่รวม VAT แล้ว
2. การออกใบกำกับภาษี
2.1 ออกเป็นยอดประจำวัน ตามยอดรายงานที่ลาซาด้าแจ้งว่าส่งมอบสินค้าสำเร็จในแต่ละวันว่าเป็นยอดเท่าไหร่?
2.2 Tax Invoice/Receipt ของลาซาด้าที่ออกให้เรา จะเป็นค่า Service Fee ซึ่งจะมี VAT. 7% ส่วนนี้ส่งให้บัญชีได้เลย
แต่อย่าลืม จะต้องทำหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ค่าบริการ 3% จากยอดก่อน VAT.แล้วนำส่งสรรพากร และส่งใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ลาซาด้า เพื่อเรียกเก็บเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืนจากลาซาด้า กรณีที่ลาซาด้าเก็บค่าบริการเราเป็นยอดเต็ม (ยอดที่ยังไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย 3%)
3. ใบ Shipping fee receipt ที่ลาซาด้าส่งมาให้เราๆจะต้องทำหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ค่าขนส่ง 1% แล้วนำส่งสรรพากร และส่งใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ลาซาด้า เพื่อเรียกเก็บเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืนจากลาซาด้า กรณีที่ลาซาด้าเก็บค่าขนส่งเราเป็นยอดเต็ม(ยอดที่ยังไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย 1%)
ซึ่งกรณีภาษีหัก ณ ที่จ่ายนี้ ลาซาด้าให้เราสามารถมอบอำนาจให้ลาซาด้าทำการแทนเราได้
4.ให้ออกเป็นใบกำกับภาษีอย่างย่อ ค่ะ
จากคำถาม ยอดซื้อให้ใช้ยอดก่อน VAT คือ 799,060.75 นะคะ
ยอดขายก็เหมือนกัน ให้ใช้ยอดก่อน VAT ค่ะ
การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย หากเป็นยอดที่มี VAT ก็ให้หักจากยอดก่อน VAT
แต่หากไม่มี VAT ก็หักจากยอดเต็มค่ะ
1.ส่วนที่จ่ายซื้อสินค้าในไทยมี VAT.7%
2.ส่วนที่ส่งออกได้ VAT.0% ค่ะ
การยื่น VAT. ยังไงก็ต้องอิงกับใบกำกับภาษีอยู่แล้ว
ดังนั้นการออกใบกำกับภาษีจากยอดใบ Invoice
สุดท้ายก็ต้องยึดยอดตามใบกำกับภาษีนะคะ ก็ใช้ได้ตามใบกำกับภาษีเลยค่ะ
1. หากมีการส่งมอบการครอบครอง จะถือว่าเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า รวมของทั้ง 2 หลัง ต้องเฉลี่ยแยกเป็นแต่ละหลัง
2.1 ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้าสามารถเป็นรายจ่ายได้ ดังนี้
ในส่วนที่ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะลงเป็นรายจ่ายทั้งจำนวน(รวมVAT)
และในส่วนที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะลงเป็นรายจ่ายเป็นยอดก่อนVAT
2.2 ภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า
ในส่วนที่ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ก็จะนำภาษีซื้อมาใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มไม่
ได้
หากเป็นการจ่ายรวมทั้งส่วนที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่า
เพิ่ม ก็ต้องใช้วิธีเฉลี่ยภาษีซื้อ
ถ้ายอดขายในสัญญาเมื่อหารด้วยจำนวนงวดแล้วคือ ค่างวดที่ต้องผ่อนชำระ
ก็ถือว่ายอดนั้นได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ตอนออกใบกำกับภาษีก็ให้ใช้วิธีถอด VAT ค่ะ
เนื่องจากกิจการขายอสังหาริมทรัพย์กฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
จากคำถาม กิจการขายอสังหาริมทรัพย์แบบผ่อนชำระ ก็ไม่ต้องเสีย VAT
แต่ให้นำดอกเบี้ยที่ได้รับจากการขายผ่อนชำระ ยื่นแบบ ภ.ธ.40
เสียภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ
ณ วันที่จ่ายเงินมัดจำงานสั่งทำก็ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ณ วันที่จ่ายเงินมัดจำด้วย
โดยหักจากยอดก่อน VAT การบันทึกบัญชีให้บันทึกเป็นลูกหนี้เงินมัดจำก่อน
เมื่องานสั่งทำเสร็จค่อยบันทึกเป็นสินค้างานสั่งทำและตัดเงินมัดจำออก
ขณะเดียวกันในวันที่จ่ายส่วนที่เหลือของงานสั่งทำก็ต้องหัก ณ ที่จ่าย ณ
วันนี้โดยหักจากยอดก่อน VAT เช่นกันค่ะ
ค่าเบี้ยประกันรถ(bmw) 40,000
อากรสแตมป์ 2,000
รวม42,000
Vat.2,800
รวมสุทธิ 42,800
ส่วนลด 2,800
รวมยอดจ่าย 40,000
อยากทราบว่าจะปันส่วนรับรู้ค่
ค่าเบี้ยประกันรถ BMW ซึ่งเป็นรถยนต์นั่ง ซึ่งVAT.ใช้เครมไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้นก็ใช้ยอดสุทธิรวมในการปันส่วน คือ 40,000.-
ซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ มีใบกำกับภาษีในนามบริษัท สามารถนำมาหักกับภาษีขายได้หรื
ขอบคุณค่ะ
ต้องดูว่าแบตเตอรี่นั้นใช้กับรถยนต์นั่งหรือไม่? ถ้าใช้กับรถยนต์นั่งจะเครม VAT
ไม่ได้ค่ะ
ขอสอบถามค่ะ
– กิจการจดทะเบียนขายสินค้าแบบมี VAT และมีกรณีที่กิจการออกใบกำกั
– กิจการต้องนำส่ง Vat ขาย เพิ่มเติมยังไงค่ะ
– ในกรณีที่กิจการจดทะเบียนขายสิ
ขอบคุณค่ะ
1.ควรออกใบกำกับภาษีย้อนหลังและถ้าเป็นไปได้ให้นำไปเปลี่ยนให้ลูกค้าด้วย
เพราะเมื่อกิจการอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือให้บริการต้องออกใบกำกับภาษี
2.ยื่นแบบ ภ.พ.30 ในเดือนที่ออกใบกำกับภาษีย้อนหลัง
เพื่อนำส่งภาษีพร้อมคิดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม (ดูการคำนวณใน website กรณีศึกษา)
3.กิจการจะซื้อจาก Supplier ที่ Non-VAT ได้ค่ะ แต่ต้องได้หลักฐานคือใบเสร็จมาด้วย
ก็แค่กิจการก็ไม่ต้องจ่าย VAT และก็ไม่มี VAT มาเครม คือ เมื่อไม่ได้จ่ายก็ไม่ได้เครม
หากบริษัทประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
1.การจ่ายค่าใช้จ่ายหรือซื้อทรัพย์สิน หากได้รับใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ในการบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายหรือสินทรัพย์ จะบันทึกด้วยยอดเต็มที่รวม VAT แล้ว
2.บันทึกยอดหลังรวม VAT แล้วค่ะ
3.กรณีที่เราแจกให้ลูกค้า บริษัทเราไม่อยู่ในระบบ VAT เราก็ต้องหักจากยอดเต็มค่ะ (จะไม่พูดถึง VAT ละ เพราะเราไม่อยู่ในระบบ VAT)
ส่วนในการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับที่บริษัทเราเป็นผู้จ่ายเงินค่าจ้างทำของหรือค่าบริการ ให้หักจากยอดก่อน VAT นะคะ (หากผู้รับเงินเขาอยู่ในระบบVATด้วย)
1. บริษัทได้รับยกเว้นการจดทะเบี
เมื่อการหักภาษี ณ จ่าย ทีมี VAT 7% บริษัทต้องใช้
2. ซึ่งมีการซื้อของรางวัลเป็
1. การหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย ให้หักจากยอดก่อน VAT
และเมื่อเราไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม การบันทึกบัญชีให้บันทึกเป็นยอดเต็ม
ไม่ต้องแยกรายการภาษีซื้อ
2. เมื่อเราไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินที่จ่ายไปเพื่อการซื้อสินทรัพย์
หรือเป็นรายจ่ายต่างๆ ให้บันทึกเป็นยอดเต็ม ไม่ต้องแยก VAT ค่ะ
มือใหม่หัดทำค่ะ กรณีลูกค้าออกหัก ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 21/05/63 แต่เราออกใบกำกับ และ ใบเสร็จ วันที่ 22/05/63 เป็นอะไรไหมค่ะ แล้วตามหลักที่ถูกต้องคือต้
ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอยู่ในเดือนเดียวกัน
หลักที่ถูกต้องคือ ออกให้ตรงกับวันที่ๆหักภาษี ณ ที่จ่าย
แต่ถ้าไม่ตรงและยังอยู่ในเดือนเดียวกันก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังส่ง VAT
ตรงเดือนที่เขาจ่ายเงินค่ะ
ขอรบกวนสอบถามหน่อยครับเกี่ยวกั
3.total แล้วท้ายจดหมายเขายังระบุว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมู
จึงอยากจะสอบถามว่า
1)ข้อมูล TAX INVOICE ของผู้ขายถูกส่งให้สรรพากรเป็
การขายสินค้าออนไลน์ก็ถือว่าเป็นการขายปลีกด้วย
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องออกใบกำกับภาษีเต็มรูปเป็นรายบุคคล
อาจจะใช้วิธีออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ
แต่หากลูกค้าประสงค์จะรับใบกำกับภาษีก็ต้องออกเต็มรูปให้
แต่กรณีนี้เป็นการขายผ่านลาซาค้า
และลาซาด้าได้ออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีในส่วนค่าธรรมเนียมที่ลาซาด้าหักไว้
เราจะใช้ยอดรวมก่อนหักค่าธรรมเนียมของลาซาด้าเป็นยอดรายได้ของบริษัท
โดยออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีให้ลาซาด้าเป็นยอดรวมแต่ละครั้ง
(ไม่ต้องแจกแจงเป็นแต่ละรายแต่ควรระบุไว้ว่าเป็นการขายผ่านลาซาด้าช่วงวันที่เท่า
ไร) แล้วใช้วิธีถอดVAT. และนำส่งภาษีขาย-ภาษีซื้อ โดยยื่นแบบภ.พ.30
เป็นยอดขายและยอดซื้อรวมของแต่ละเดือน
ซึ่งรายละเอียดต่างๆจะอยู่ในรายงานภาษีขาย – ภาษีซื้อ
ข้อสังเกต: ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ค่าธรรมเนียมของลาซาด้าที่ได้รับ
จะถือเป็นใบกำกับภาษีซื้อของบริษัท ซึ่งจะแสดงรายละเอียดในรายงานภาษีซื้อ
ปัญหาก็คือตอนนี้ลูกค้าไม่ให้
ทางบริษัทออกใบกำกับและใบเสร็
การออกใบกำกับภาษีไม่ควรเว้นวันที่ว่างไว้
เพราะอาจเกิดเหตุว่าวันที่ฉบับของผู้รับกับผู้ออกจะไม่ตรงกัน
ซึ่งปกติแล้วเมื่อมีการออกใบกำกับภาษีแล้วก็คือ ความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่ม(Tax
Point)เกิดแล้ว
เมื่อวันที่ไม่ตรงกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนละเดือนด้วยแล้วจะยุ่งเลย
1.การรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเช็คนั้นจะออกใบกำกับภาษีเป็นวันที่ๆระบุในเ
ช็ค
2.จะเรียงตามวันที่หรือตามเลขที่ใบกำกับภาษีก็ได้
แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละกิจการ
3.การคำนวณผิดของแบบ ภ.พ.30 ที่ได้ยื่นไปแล้ว
ก็ให้ทำแบบของเดือนนั้นๆยื่นเพิ่มเติม ครั้งที่..?..เพื่อนำส่ง VAT.ที่ชำระไว้ขาด หรือ
ขอคืนVAT.ในส่วนที่ชำระไว้เกิน ค่ะ
กรณีที่ต้องออกใบเสร็จรับเงินก่
แต่หลังจากนั้นใบเสร็จใบถัดไป เลขที่ RE202002-002 แต่ลงวันที่ 15 Feb 2020 เนื่องจากลูกค้าเจ้าอื่นชำระเงิ
แบบนี้สามารถทำได้หรือไม่คะ
ทำได้ค่ะ แต่พอถึงวันที่ๆลงไว้คือ 29 กพ.63 แล้วยังไม่ได้รับเงิน ก็ต้องยื่น
VAT.ตามเดือนที่ลงในใบกำกับภาษี เพราะความรับผิดเกี่ยวกับ VAT เกิดแล้ว
ที่สำคัญก็คือ ให้ยื่น VAT ให้ตรงตามเดือนในใบกำกับภาษีนะคะ
สอบถามค่ะ เปิดธุรกิจขายสินค้าแต่บริษัทมี
หรือหากไม่มีVat แล้วต้องนำยอดขายกรอกแบบภพ.30 นำส่งแสดงยอดให้สรรพากร มัยค่ะ
การค้าอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้อยู่ในบังคับที่ต้องเสียVAT.
แต่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ดังนั้น การที่บรริษัทขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
1.ไม่ต้องเปิดบิลขาย
2.ไม่ต้องเสียVAT
3.ไม่ต้องนำยอดไปกรอกแบบ ภ.พ.30
แต่ให้ใช้ใบ ท.ด.10 ในการบันทึกการขายที่ดินฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัทค่ะ
กรณีบริษัทนำเครื่องถ่
ทางบ.นั้นให้ออกบิลค่าเครื่องถ่
ถ้าหากว่าค่าเครื่องถ่ายตัวใหม่ = 100,000+VAT7% = 107,000 บาท
เวลาทำจ่ายเครื่องถ่ายตัวใหม่
เงินที่จ่ายซื้อเครื่องใหม่ 107,000 บาท และเงินที่ออกบิลขายเครื่องเก่า 10,700
บาท ดังนั้นเงินที่จะจ่ายซื้อสุทธิจะเท่ากับ 107,000 หัก 10,700 บาท
พอดีออกบิลเลขที่ใบกำกับภาษีให้
ไม่ต้องแก้ไขค่ะ ก็ใช้เลขที่ๆให้ลูกค้าไป ใช้ตามนั้นเลยคือ 6106/271
เลขที่มันขึ้นอยู่กับเราใส่อยู่แล้ว สำคัญคือส่ง VAT ให้ถูกต้องค่ะ
กิจการอยู่ในระบบVATออกใบกำกั
โดยใบกำกับภาษีอย่างย่อนี้ได้มี
ปัญหานะคะ
1.เจ้าหน้าที่ที่ทำไม่ทราบว่
2.ไม่มีการทำสต๊อกสินค้าจริง
3.สำนักงานบัญชีให้ดูสินค้
5.เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้
อยากขอรบกวนด้วยค่ะเป็นเจ้าหน้
จากคำถาม จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการปฏิบัติงาน
ซึ่งคงต้องให้สำนักงานบัญชีที่รับทำบัญชีให้บริษัท เข้ามาวางระบบให้
คงไม่สามารถอธิบายเป็นคำตอบ ณ ที่นี้ได้นะคะ
รบกวนสอบถามค่ะ
กรณีที่เราออกอินวอยซ์ไปต่
ต่อมาปี 2019 ต้องการออกใบลดหนี้
จะสามารถออกได้หรือไม่คะ
ขอบคุณมากค่ะ
ออกใบลดหนี้ได้หากเข้าเงื่อนไขการออกใบลดหนี้ และจะต้องเป็นใบลดหนี้ที่VAT.
0% เช่นกัน
ลูกค้าให้ออกใบกำกับภาษีให้ก่
ใบกำกับภาษีออกวันที่ 29/1/61 ความรับผิดในภาษีมูลค่าเพิ่ม(Tax
Point)เกิดในวันที่ๆออกใบกำกับภาษีแล้วค่ะ ต้องยื่นVAT.เป็นเดือน มกราคม 2561
นะคะ
อยากสอบถามค่ะ เราออกใบกำกับภาษีที่อยู่ของตั
ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ เพราะปกติอำเภอพิษณุโลกก็ไม่มีอยู่แล้ว
แต่จะเป็นอำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งจะหายคำว่าเมืองเท่านั้น
ไม่ได้ทำให้สาระสำคํญผิดไปจนทำให้เข้าใจเป็นคนละอำเภอเลย
ไม่น่าจะมีปัญหานะ แต่เมื่อทราบก็แก้ไขให้ถูกต่อไปนะคะ
ส่วนลดที่ทำเป็นใบลดหนี้ค่
ถ้าออกใบลดหนี้ ก็สามารถนำมาหักVATได้ค่ะ
บริษัทจดVAT จะออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้ายั
กรณีที่ลูกค้าส่งเงินสำรองให้บริษัทซื้อของให้นั้น
ไม่ใช่รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท ไม่ควรออกใบเสร็จรับเงิน
ควรออกเป็นเอกสาร ”ใบรับเงิน” ธรรมดาเพื่อเป็นหลักฐานว่ารับเงินแล้วเท่านั้น
ขอแนะนำว่า
กรณีที่เงินไม่ใช่รายได้ของบริษัทไม่ควรโอนเข้ามาในบัญชีของบริษัท
เพราะบางครั้งสรรพากรก็จะไม่เชื่อหรอกว่าเงินที่โอนมาในบัญชีไม่ใช่รายได้ของ
บริษัทหากเราพิสูจน์ไม่ได้ ก็จะกลับกลายเป็นรายได้ของบริษัทไป
ทางโรงแรมได้ออกใบเสร็จ/ใบกำกั
ปกติโรงแรมที่ดิวงานกับสถานฑูตก็จะทราบว่าต้องออกVAT.0 ให้สถานทูตอยู่แล้ว
กรณีเช่นนี้ให้บริษัททำหนังสือสอบถามไปยังสรรพากรพื้นที่นะคะ
ว่าจะให้บริษัทต้องทำอย่างไร จะออกใบลดหนี้ไม่ได้ค่ะ
เพราะไม่ใช่เหตุแห่งการลดหนี้ค่ะ
ได้จ้างบริษัท A ออกแบบบรรจุภัณฑ์ และจ่ายเงินในเดือน 6 แต่ยังไม่ได้รับใบกำกับภาษี ในเดือน 6 จึงไม่ได้ยื่น VAT รายการนี้ใน ภพ.30 และไม่ได้ออกใบหัก ณ ที่จ่ายและยื่น ภงด.53 ได้มีการตกลงกันว่าให้ออกใบเสร็
ตามหลักเราจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และออกหนังสือรับรองฯ ในเดือน 6
จากโจทย์เราจะต้องออกหนังสือรับรองฯ เป็น 15/ 6/2561
แล้วนำไปเปลี่ยนให้บริษัท A และนำส่งภาษีย้อนหลังด้วย
ส่วนใบกำกับภาษีที่ได้มานั้น สามารถนำไปใช้เครดิตได้ใน 6
เดือนนับจากเดือนถัดจากเดือนในใบกำกับภาษี คือใชัได้ถึงเดือน 12
ยื่นภพ.30 ผิดค่ะ
เดือน พ.ค.61 ได้ทำแบบ ภ.พ.30
ไว้เพื่อจะนำส่ง วันที่15ของเดือนถัดไป
แต่ทีนี้ไม่ได้นำส่งเพราะลูกค้
พอเดือน มิย.61 ลูกค้าไม่มีบิลซื้อขายเลย
เกิดความผิดพลาดโดยได้
แบบ ภพ.30 ของเดือน มิย.แล้วได้นำส่งไปแล้ว
แต่ยอดเครดิตของเดือนที่แล้วไม่
จะมีวิธีแก้อย่างไรบ้างค่ะ
ปกติถ้าเรามียอดเครดิตVAT.ที่ยกยอดไปใช้ในเดือนถัดไปนั้น
เมื่อไหร่ที่เราไม่ได้ยื่นแบบปกติ หรือลืมใส่ยอดเครดิตยกไป นั่นจะทำให้
เราก็จะไม่สามารถนำยอดเครดิตนั้นมาเป็นยอดเครดิตในแบบ ภ.พ.30 ได้อีกต่อไป
จะทำได้คือการขอคืนเป็นเงินสดด้วยการยื่นแบบ ค.10 ขอคืนเท่านั้น
จากคำถาม เดือน พ.ค.61 ไม่ได้ยื่นแบบปกติ ทำให้ในเดือน มิย.61
ก็หมดสิทธิ์ที่จะยกยอดเครดิตมาใช้
แต่คุณบอกไม่มียอดซื้อ และได้ยกยอดเครดิตดังกล่าวมาใช้ด้วย แสดงว่าเดือน
มิ.ย.61 มียอดขายใช่มั้ยคะ?
กรณีที่มียอดขาย ก็จะทำให้เราเสียภาษีขาดไป ด้วยยอดซื้อที่แจ้งไว้เกิน เท่ากับ
ยอดเครดิตที่ไม่มีสิทธิ์ยกมาใช้นั่นเอง
วิธีแก้:
ทำแบบ ภ.พ.30 เดือน มิ.ย.61 ยื่นเพิ่มเติม สำหรับภาษีซื้อที่แจ้งไว้เกิน โดย
1.นำยอดซื้อของภาษีซื้อดังกล่าว กรอกใน ข้อ.1.2 และข้อ.4
2.นำยอดภาษีซื้อที่ไม่มีสิทธิ์ยกมาใช้ กรอกในข้อ.5 ,ข้อ8 และข้อ.11
3.คำนวนเงินเพิ่ม ,เบี้ยปรับ และรวมยอด ในข้อ.13 ,ข้อ.14 และข้อ.15
หมายเหตุ: การคำนวณเงินเพิ่มและเบี้ยปรับให้ดูได้ใน Website กรณีศึกษาค่ะ
อยากทราบว่า ถ้าไม่ได้ออกใบกำกับภาษีตามวั
จากคำถาม กรณีนี้ยังเป็นวันที่ๆอยู่ในเดือนเดียวกัน
จะไม่มีปัญหาเพราะยังไงก็ส่ง VAT ในเดือนเดียวกันอยู่ค่ะ
การคำนวณ vat กรณีมีส่วนลด คำนวณอย่างไรคะ
เช่น
เติมน้ำมัน 33.73 ลิตร ราคาลิตรละ 26.68 บาท มีส่วนลดลิตรละ 0.2 บาท ดังนั้นรวมส่วนลด 6.746 บาท
มูลค่าสินค้า 834.8168
VAT 58.4372
รวมเป็นเงิน 893.254
แต่ใบกำกับภาษีแสดงทศนิยม 2 ตำแหน่ง ดังนี้
มูลค่าสินค้า 834.82
VAT 58.44
รวมเป็นเงิน 893.25
เมื่อลูกค้าคำนวณจำนวนเงิน 834.82+58.44 ได้ไม่เท่ากับ 893.25 ค่ะ
ปกติการคำนวณตัวเลขVAT.จะใช้ทศนิยม 2 ตำแหน่ง โดยถ้าตำแหน่งที่ 3 เกิน 5 ให้ปัดขึ้น แต่ถ้าไม่ถึง 5 ให้ปัดทิ้ง
กรณีที่มีเครื่องคิดเลขที่ตั้งค่าได้นั้น ควรตั้งดังนี้คือ
1.ตั้งทศนิยมไปที่ 2 ตำแหน่ง
2.ตั้งให้เครื่องปัดหริอตัดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 ตามที่เราต้องการข้างต้น
โดยเลื่อนไปที่ตำแหน่ง 5/4หมายเหตุ:
ถ้าเราไม่ได้ตั้งค่าตรงนี้ ปุ่มอาจอยู่ที่
F หมายถึง เครื่องจะแสดงค่าทศนิยมเท่ากับจำนวนทศนิยมที่เครื่องคำนวณได้
CUT หมายถึง เครื่องจะแสดงค่าทศนิยมเท่ากับ 2 ตำแหน่ง
โดยไม่สนใจว่าตำแหน่งที่ 3 จะมีค่าเท่าไร
ซึ่งที่นักบัญชจะสะดวกสุดก็คือตั้งค่าที่ตำแหน่ง 5/4
และต้องสังเกตุทศนิยมด้วยว่ารวมแล้วก็ต้องเท่ากับยอดรวมด้วยจากคำถาม
ยอดที่ถูกต้องคือ
มูลค่าสินค้า 834.81
VAT 58.44
รวมเงิน 893.25
ต้องให้เขายกเลิกใบกำกับภาษีแล้วออกให้ใหม่แทนค่ะ