Tag Archives: ภ.ง.ด.50

ต้องปรับปรุงรายการรับรู้รายได้เป็นของปีก่อนค่ะ
และให้ดูผลกระทบต่อภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย ซึ่งอาจจะต้องยื่น ภ.ง.ด.50
เพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงรายได้และภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยค่ะ

ในเมื่อเอกสารการหักภาษี ณ ที่จ่ายลงวันที่ 30/12/2563
การบันทึกการรับเงินจะต้องเป็นวันที่ 30/12/2563
และหากเป็นธุรกิจบริการที่ต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อมีการรับชำระเงินด้วย
ใบกำกับภาษีก็จะต้องลงวันที่ 30/12/2563 ด้วยเช่นกัน
จากคำถาม
1.ภาษีหัก ณ ที่จ่ายลงวันที่ 30/12/2563 นำไปใช้ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ได้เลยค่ะ
แต่ให้ดูด้วยว่ายอดที่ไม่ได้บันทึกการรับเงินนั้นกระทบต่อยอดภาษีเงินได้นิติบุคคลหรื
อไม่? หากกระทบก็ให้ปรับปรุงรวมใน ภ.ง.ด.50 ปี 2563
2.ส่วนในด้านบัญชี สามารถปรับปรุงบันทึกในปี 2564 ได้ค่ะ

เมื่อบริษัทยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ประจำปีและมีภาษีที่ถูกหัก ณ
ที่จ่ายไว้เกินภาษีที่บริษัทต้องชำระ ก็ให้ลงชื่อขอคืนภาษีในแบบได้เลยค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่สรรพากรจะคืนเงินภาษีให้ ก็คงต้องเรียกตรวจสอบว่าแบบ
ภ.ง.ด.50 ประจำปีที่ยื่นแบบเสียภาษีไปนั้นถูกต้องหรือไม่?

1.ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ชำระเพิ่มไปแล้วก็ถือตามนั้นค่ะ แต่ยอดภาษีที่บริษัทถูกหัก ณ
ที่จ่าย แต่ไม่ได้บันทึกบัญชีในปี 2562 จึงไม่ได้นำมาใช้เป็นเครดิตภาษีตอนยื่นแบบ
ภ.ง.ด.50 ก็ให้ยื่นคำร้องขอคืน (แบบ ค.10)
เพื่อขอคืนภาษีในส่วนนี้โดยให้แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
ซึ่งการยื่นคำร้องขอคืนภาษีจะทำได้ภายใน 3 ปี
นับแต่วันสุดท้ายจากกำหนดเวลายื่นแบบ

2.มีโอกาสได้คืนค่ะ แต่แน่นอนว่าก่อนที่สรรพากรจะคืนเงินภาษีให้
ก็คงต้องเรียกตรวจสอบว่าแบบ ภ.ง.ด.50 ปี 2562
ที่ยื่นแบบเสียภาษีไปนั้นถูกต้องหรือไม่?

ส่วนการที่จะนำภาษีที่เกินในปี 2562 มาใช้เป็นของปี 2563 นั้นไม่ได้
เพราะเป็นคนละรอบบัญชีค่ะ

ส่วนต่างที่หายไป เป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่สรรพากรประเมินเพิ่ม
ให้บันทึกส่วนที่หายไปเป็น ภาษีเงินได้นิติบุคคลค่ะ

คำตอบ:

การยื่น ภ.ง.ด.51 และ ภ.ง.ด.50 กรณีที่มีขาดทุนสะสมย้อนหลังไม่เกิน 5 ปีนั้น
ก็ต้องกรอกลงไปด้วยค่ะ
แต่จะกรอกเท่าไหร่นั้น ให้เข้าไปศึกษา และทำความเข้าใจใน Website กรณีศึกษา
เรื่องขาดทุนย้อนหลัง 5ปี นะคะ

คำตอบ:

ตามกฎหมายแล้วกำหนดให้บริษัทยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ปีละ 2 ครั้ง แต่ถ้าไม่ได้ยื่น ภ.ง.ด.51 และคำนวณแล้วมีผลขาดทุน ผลก็จะไม่กระทบกับตัวภาษี และเงินเพิ่มภาษี แต่ถ้าสรรพากรพบความผิดก็จะเสียแค่ค่าปรับอาญาที่ไม่ยื่นแบบตามกำหนดเวลาเท่านั้น คือ 200.- บาท

คำตอบ:

ณ วันที่ 31 ธันวาคม  2550 เราจะบันทึกยอดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับปี 2550 ไว้แล้ว ดังนี้

Dr. ภาษีเงินได้นิติบุคคล      xxxx

Cr. ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า      xxxx   (คือภาษีที่บริษัทถูกหัก ณ ที่จ่ายระหว่างปี)

Cr. ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย          1,000.-

ณ 12 ธันวาคม 2551 ยื่น ภ.ง.ด.50 พร้อมชำระเงิน

Dr. ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย          1,000.-

Dr. ค่าเบี้ยปรับอาญา+เงินเพิ่มภาษี        xxx

Cr. เงินสด                                         1,000+xxx

คำตอบ:

จำนวน 50,000.- บาทที่ตั้งค้างจ่ายไว้แต่ไม่มีการจ่ายจริงนั้น ถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม ให้ปรับปรุงรายการบัญชีกับกำไรสะสมค่ะ แล้วคำนวณกำไรหรือขาดทุนปี 2555 ใหม่ดูว่ากระทบกับภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ชำระไว้หรือไม่?

ถ้าปี 2555 บริษัทฯ มีผลกำไร ก็จะกระทบกับภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องยื่นปรับปรุง ภ.ง.ด.50 เพื่อชำระภาษีเพิ่มเติมพร้อมเงินเพิ่ม

ถ้าปี 2555 บริษัทฯ มีผลขาดทุน ก็จะต้องยื่นปรับปรุง ภ.ง.ด.50 เพื่อแก้ไขยอดขาดทุนปี 2555 ให้ถูกต้องโดยจะไม่มียอดภาษีที่ต้องชำระ และให้แก้ไขยอดขาดทุนย้อนหลังปี 2555 ให้ถูกต้องด้วยค่ะ

คำตอบ:

ภาษีเงินได้ที่เสียไปในต่างประเทศ

1.ถ้าในปีนั้นกิจการมีผลขาดทุน ก็ให้นำภาษีที่เสียไปในต่างประเทศทั้งจำนวน ลงเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ จะขอคืนเป็นตัวเงินไม่ได้ และกรอก ภ.ง.ด.50 ในรายการที่ 8 รายจ่ายในการขายและบริหาร

2.เป็นค่าใช้จ่ายฝ่ายบริหาร

3.ในส่วนภาษีเงินได้ที่เสียไปในต่างประเทศ และได้นำมาเป็นเครดิตภาษีได้แต่ไม่เกินที่จำนวนภาษีต้องเสียในประเทศไทย ส่วนที่นำมาเป็นเครดิตภาษีนี้จะนำมาลงเป็นรายจ่ายอีกไม่ได้ค่ะ

คำตอบ:

ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้เสียไปในต่างประเทศ จะนำมาใช้เป็นเครดิตได้ไม่เกินภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทย คือนำมาเครดิตภาษีแล้วเหลือ จะขอคืนไม่ได้นั่นเอง และต้องมีหลักฐานที่หน่วยงานจัดเก็บภาษีเงินได้ของต่างประเทศออกหนังสือรับรองให้ด้วย ถ้าออกเป็นภาษาอังกฤษก็ใช้ได้เลย ถ้าออกเป็นภาษาอื่นก็ต้องแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษค่ะ

คำตอบ:

การที่เราไม่ได้นำภาษีซื้อไปใช้ภายใน 6 เดือนนั้น ตย. ภาษีซื้อเดือน 1/59 จะนำมาใช้ได้ถึงเดือน 7/59 ซึ่งถ้าเลยจากนี้ไป ก็มีทางเลือก 2 ทางคือ

1.ยื่นแบบเพิ่มเติม เพื่อขอคืนภาษีซื้อเป็นตัวเงินเท่านั้น

2.ไม่ขอคืนเลย ซึ่งถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็ทิ้งไปเฉยๆเลยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นนิติบุคลก็ยังต้องบันทึกบัญชีอยู่ ซื้อก็เป็นรายจ่ายไป ส่วนภาษีซื้อที่ไม่ขอคืนก็จะเป็นรายจ่ายต้องห้าม ซึ่งจะบวกกลับรายจ่ายตอนคำนวณภาษีเงินได้นิติฯปลายปีใน ภ.ง.ด.50 ค่ะ

สวัสดีค่ะ
จะถามว่าใบกำกับภาษีซื้อไม่ได้เอามาใช้ยื่น Vat แล้วเอามาเป็นค่าใช้จ่าย ต้องบำนทึกบัญชีแบบนี้ไม่ค่ะ
Dr.ซื้อ
ภาษีซื้อไม่ขอคืน
Cr เงินสด
แล้วตอนปิดงบต้อง ภาษีซื้อไม่ขอคืน
มาบวกกลับมั้ยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

คำตอบ:

บันทึกบัญชีถูกต้องแล้วค่ะ

แต่ตอนปิดงบสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ให้บวกกลับ “ภาษีซื้อที่ไม่ขอคืน” ซึ่งเป็นรายจ่ายต้องห้าม ในแบบ ภ.ง.ด.50 นะคะ

ในระบบบัญชีก็ตามที่เราบันทึกนั้นค่ะ

กรณีบริษัทค้าอสังหาริมทรัพย์ บันทึกรับรู้รายได้ทางภาษีทั้งจำนวนเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ แต่ตามท.ป.1/2528 ข้อ 3.7 (1) ….. เฉพาะการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีการจดทะเบียนในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันกับการขายนั้น
มีความหมายอย่างไร ถ้าบริษัทผมขายบ้าน 100 หลัง ทุกหลังโอนภายในปี แต่บังเอิญมี 3 หลัง โอนไม่ทัน แบบนี้แสดงว่าผมไม่สามารถรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเลยหรือเฉพาะ 3 หลังนั้นที่รับรู้รายได้ทั้งจำนวนไม่ได้

คำตอบ:

การรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น หมายความว่าถ้ายังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ก็ยังไม่ต้องรับรู้รายได้ แต่ถ้าลูกค้าจ่ายเงินครบและมีการส่งมอบบ้านให้ลูกค้าครอบครองแล้ว เพียงแค่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์เท่านั้น อย่างนี้ ในปีที่โอนสิทธิ์ในการครองครองบ้าน ทางบัญชีให้รับรู้รายได้เลยแต่ทางภาษียังไม่รับรู้รายได้ พออีกปีที่มีการโอนกรรมสิทธ์ทางบัญชีก็ไม่มีรายได้ให้รับรู้แล้ว แต่ทางภาษีต้องรับรู้รายได้ในปีที่โอนกรรมสิทธิ์นั้น

จากคำถาม บ้านที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ 97 หลัง ให้รับรู้รายได้เลย ส่วนอีก 3 หลังก็ให้ดูว่าเราได้โอนสิทธิ์ในการครองครองบ้านให้ลูกค้าหรือยัง ถ้ายัง! ก็ไม่ต้องรับรู้รายได้จนกว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ค่ะ ( การรับรู้รายได้ทางภาษีให้ยึดการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดิน )

การรับรู้หรือไม่รับรู้รายได้ทางภาษีนั้น ให้ใช้การปรับปรุงใน ภ.ง.ด.50 นะคะ

บจ.ก ขายทรัพย์สิน(เครื่องจักร)ให้กับบริษัทในเครือ คือ บจ.ข. ในราคา 74,682,000.00บาท ทางบจ.ข. เมื่อซื้อจาก ก. มาแล้วนำมาทำลิสซิ่งกับทางบจ.ค(ลิสซิ่ง)โดยเปิดขายให้ในราคา 82,980,000.00และผ่อนกับลิสซิ่งจำนวน 60 งวด(5ปี) และในขณะที่ทาง บจ.ก.เมื่อขายทรัพย์สินไปแล้วก็นำทรัพย์สินชุดดังกล่าวเช่ากลับ อยากทราบว่าทาง บจ.ข .ต้องบันทึกบัญชีและนำส่งภ.ง.ด.50 อย่างไรบ้าง–ขอบคุณครับ

คำตอบ:

เนื่องจากคำถามไม่ได้ระบุว่าลักษณะของการจ่ายเงินตามสัญญาเป็นอย่างไร แต่หากพิจารณาจากเนื้อหาของธุรกรรมแล้วนี่จัดประเภทเป็นสัญญาเช่าการเงิน (Sale and Lease back) โดยบริษัท ข เปรียบเสมือนตัวแทนในการจัดหาเงินทุนให้กับ บริษัท ก เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว  Risk, return, reward ของตัวเครื่องจักรยังคงเป็นของบริษัท ก

ดังนั้น ในการบันทึกบัญชี บริษัท ข จะบันทึกเพียงลูกหนี้ (บริษัท ก) และเจ้าหนี้ (บริษัทลิสซิ่ง) โดยแยกสองสัญญา
ในทางภาษีให้ยึดตามข้อวินิจฉัยของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/publish/38098.0.html

โดยเงินที่จ่ายตามสัญญาเช่าลิสให้กับบริษัท ค ถือเป็นการค่าใช้จ่าย และรายได้ค่าเช่าที่บริษัท ก จ่ายให้ บริษัท ข ถือเป็นรายได้ค่าเช่า

บริษัทฯได้จ้างสำนักงานบัญชีทำงบการเงินของปีที่แล้ว 2555 แล้วเมื่อเดือนตุลาคม56 ที่ผ่านมาบริษัทจะปิดกิจการ จึงได้ทำงบทดลองก่อนปิด และหลังปิดเพื่อส่งให้สำนักงานบัญชี แล้วได้พบข้อผิดพลาดขึ้นคือ บัญชีเจ้าหนี้กรมสรรพกรมียอดสูงกว่าความจริง ยอดที่ถูกคือ 16,982 แต่ยอดที่ยื่นงบไปคือ 45,075.87 จะต้องปรับปรุงหรือดำเนินการอย่างไรค่ะ…ขอบคุณค่ะ

คำตอบ:

งบการเงินของปี 2555 ที่ปิดและยื่นงบไปแล้วก็คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

แต่เราก็ต้องมาดูว่าบัญชีเจ้าหนี้กรมกสรรพากรที่มียอดสูงกว่าความจริงนั้นคือ ภาษีตัวไหน ?

ถ้าเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลปี 2555 ที่คำนวณผิด เราก็ทำแบบ ภ.ง.ด.50 ขึ้นมาใหม่ให้ถูกต้องแล้วยื่นเพิ่มเติมไปใหม่ สรรพากรก็จะยึดฉบับล่าสุดที่เรายื่นเพิ่มเติมเข้าไป

ส่วนรายการที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี เราจะมาปรับปรุงยอดให้ถูกต้องตอนต้นปี 2556 นะคะ